ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาสำคัญศาสนาหนึ่งของโลก มีประชากรนับถือประมาณ 1,600 ล้านคน นับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับสองในโลก พื้นที่รวมของกลุ่มประเทศมุสลิมทั้งหมดประมาณ34,722,286 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่ลองจิจูด 141 องศาตะวันออก ทางด้านตะวันออกของเขตพรมแดนประเทศอินโดนิเซีย ทอดยาวไปจนถึงลองจิจูด 17.29 องศาตะวันตก ณ กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล (Senegal) ซึ่งอยู่ในภาคตะวันตกของทวีแอฟริกา จนถึงลุติจูด 55.26 องศาเหนือ บริเวณเส้นเขตแดนตอนเหนือของประเทศคาซัคสถาน ทอดยาวเรื่อยไปจนถึงเส้นเขตแดนทางตอนใต้ของประเทศแทนซาเนีย ที่ละติจูด 11.44 องศาใต้
ในโลกของเรานี้มีจำนวนประเทศกว่า 200 ประเทศ เป็นประเทศมุสลิมกว่า 67 ประเทศ ในประเทศไทยมีศาสนาอิสลามเข้ามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ศาสดาของศาสนาอิสลามในสมัยสุดท้ายของทางโลกคือ ศาสดามูฮัมหมัด
ศาสนาอิสลาม คือ ความศรัทธา ข้อบัญญัติเกี่ยวกับการปฏิบัติและจริยธรรม ซึ่งบรรดาศาสดา ที่อัลลอฮฺ ได้ประทานลงมาเป็นผู้นำ เพื่อมาสั่งสอนและแนะนำแก่มวลมนุษยชาติ สิ่งทั้งหมดเหล่านี้เรียกว่า ดีน หรือ ศาสนา นั่นเอง ผู้ที่มีความศรัทธาจะตระหนักอยู่เสมอว่า ชีวิตของเขาได้พันธนาการเข้ากับอำนาจสูงสุดของพระผู้ทรงสร้างโลก ในทุกสถานภาพของเขาจะรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า และมอบหมายตนเองให้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของพระองค์ตลอดเวลา เขาเป็นผู้มีจิตใจมั่นคงและมีสมาธิเสมอ
อิสลาม คือ รูปแบบการดำเนินชีวิตทีถูกกำหนดโดยผู้ที่รู้จุดกำเนิดของมนุษมากที่สุดก็คือผู้สร้าง..อัลลอฮฺ คำว่า"อัลลอฮฺ" แปลว่า พระเจ้า ซึ่งเป็นคำเรียกเฉพาะที่แยกออกจากคำในภาษาอาหรับอื่นๆที่มีความหมายว่า พระเจ้า อิสลามเป็นภาษาอาหรับ แปลว่า การสวามิภักดิ์
ซึ่งหมายถึงการสวามิภักดิ์อย่างบริบูรณ์แด่ อัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้า ด้วยการปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ อิสลาม มีรากศัพท์มาจากคำว่า อัส-สิลมฺ หมายถึง สันติ โดยนัยว่าการสวามิภักดิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มนุษย์ได้พบกับสันติภาพทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนามนุษยชาติตลอดกาล ตั้งแต่แรกเริ่มของการกำเนิดของมนุษย์จนถึงปัจจุบันและอนาคต
บรรดาศาสนฑูต ในอดีตล้วนแล้วแต่ได้รับมอบหมายให้สอนศาสนาอิสลามแก่มนุษยชาติ ศาสนฑูตท่านสุดท้ายก็คือ ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซล) บุตรของอับดุลลอฮฺ บินอับดิลมุฎฎอลิบ จากเผ่ากุเรชแห่งอารเบีย ได้รับมอบหมายให้เผยแพร่สาส์นของอัลลอฮฺในช่วงปี ค.ศ. 610-632 เฉกเช่นบรรพศาสนาในอดีต โดยมีมะลักญิบรีล เป็นสื่อระหว่างอัลลอฮฺ (พระผู้เป็นเจ้า)และมูอัมหมัด
พระโองการแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่ทะยอยลงมาในเวลา 23 ปี ได้รับการรวบรวมขึ้นเป็นเล่มมีชื่อว่า อัล-กุรอาน ซึ่งเป็นธรรมนูญแห่งชีวิตมนุษย์ เพื่อที่จะได้ครองตนบนโลกนี้อย่างถูกต้องตามแนวทางแห่งอิสลามก่อนกลับคืนสู่พระผู้เป็นเจ้าในศาสนาอิสลามนั้นไม่มีคำว่า นิกาย แต่จะใช้คำว่า มัซฮับ แทน (แปลว่า แนวทาง) เนื่องจากแนวทางในแต่ละแนวทางไม่ได้แตกต่างกันมากนักและเป็นสิงที่ศาสนะทูตเคยกระทำไว้ทั้งสิ้น..มันเป็นวิทยปัญาที่ว่าจะมีคนกระทำแบบอย่างของท่านทุกแบบอย่างจนถึงวันสิ้นโลก
หลักการศรัทธา
อิสลามสอนว่า ถ้าหากมนุษย์ พิจารณาด้วยสติปัญญาและสามัญสำนึกจะพบว่า จักรวาลและมวลสรรพสิ่งทั้งหลายที่มีอยู่ มิได้อุบัติขึ้นมาด้วยตัวเอง เป็นที่แน่ชัดว่า สิ่งเหล่านี้ได้ถูกอุบัติขึ้นมาโดยพระผู้สร้าง ด้วยอำนาจและความรู้ที่ไร้ขอบเขต ทรงกำหนดกฎเกณฑ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไว้ทั่วทั้งจักรวาล ทรงขับเคลื่อนจักรวาลด้วยระบบที่ละเอียดอ่อน ไม่มีสรรพสิ่งใดถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร้สาระ
พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเมตตา ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างประเสริฐจะเป็นไปได้อย่างไร ที่พระองค์จะปล่อยให้มนุษย์ดำเนินชีวิตอยู่ไปตามลำพัง โดยไม่ทรงเหลียวแล หรือปล่อยให้สังคมมนุษย์ดำเนินไปตามยถากรรมของตัวเอง
พระองค์ทรงขจัดความสงสัยเหล่านี้ ด้วยการประทานกฎการปฏิบัติต่าง ๆ ผ่านบรรดาศาสดา ให้มาสั่งสอนและแนะนำมนุษย์ไปสู่การปฏิบัติ สำหรับการดำเนินชีวิต แน่นอนมนุษย์อาจมองไม่เห็นผล หรือได้รับประโยชน์จากการทำความดี หรือได้รับโทษจากการทำชั่ว ของตน
จากจุดนี้ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่า ต้องมีสถานที่อื่นอีก อันเป็นสถานที่ตรวจสอบการกระทำของมนุษย์ อย่างละเอียดถี่ถ้วน ถ้าเป็นความดีพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นผลตอบแทน แต่ถ้าเป็นความชั่วก็จะถูกลงโทษไปตามผลกรรมนั้น ศาสนาได้เชิญชวนมนุษย์ไปสู่หลักการศรัทธา และความเชื่อมั่นที่สัตย์จริง พร้อมพยายามมผลักดันมนุษย์ ให้หลุดพ้นจากความโง่เขลาเบาปัญญา
หลักศรัทธาอิสลาม
1.ศรัทธาว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้า
2.ศรัทธาในบรรดาคัมภีร์ของพระเจ้า
3.ศรัทธาในบรรดาศาสนฑูตต่างๆ ที่อัลลอฮฺได้ทรงส่งมายังหมู่มนุษย์ และนบีมูฮัมหมัด (ซล.) เป็นศาสนฑูตคนสุดท้าย
4.ศรัทธาในบรรดามะลาอิกะฮฺ
5.ศรัทธาในวันสิ้นโลก
6.ศรัทธาว่าความดีความชั่วมาจากอัลลอฮฺ
หลักบัญญัติ(ปฏิบัติ)ของอิสลาม
1.การปฏิญานตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺและมูฮัมหมัดเป็นศาสนฑูตของอัลลอฮฺ
2.ดำรงการละหมาด วันละ 5 เวลา
3.จ่ายซะกาต
4.ถือศีลอดในเดือนรอมาฎอรทุกปี
5.บำเพ็ญฮัจญ์ หากมีความสามารถ ณ นครมะกะห์ ประเทศซาอุดิอารเบีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น