วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

วันที่ "Social Network" ปลุกศรัทธามุสลิม (ตอนจบ)

ต่อจากตอนที่แล้ว

อย่างไรก็ดี เราคงพึ่งเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์กให้กระทำต่างๆ ไม่ได้อยู่ดี สิ่งที่ดีที่สุดคือ เราต้องสร้างเกราะคุ้มกันให้งสังอิสลาม สร้างเกราะคุ้มกันให้กับเยาวชนมุสลิมทุกคน ท่างกลางการเจริญรุดหน้าของโลกใบนี้ เราคงหนีไม่พ้นที่จะต้องเจอกับการต้องผจญกับคนที่ต่อต้านอิสลามและบิดเบือนอิสลาม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความรู้ศาสนากับลูกๆ หลานๆ ของเราซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่ใช่แค่เก็บไว้ในสมองว่ารู้ แต่ต้องถูกนำมาปฏิบัติและถูกนำออกมาเผยแพร่ให้บุคคลอื่นๆ ชักชวนกันสู่หนทางแห่งอิสลาม หนทางสู่การตอบแทนแห่งโลกหน้าโลกอาคิเราะห์ ในขณะที่มีคนใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กทำลายล้างคุณธรรมความดี เราก็ต้องใช้มันนี่ละซึ่งมันมีประโยชน์อยู่มาก มาใช้ในการเผยแพร่อิสลามที่สวยงาม ดีงาม ถูกต้องสู่ค่ทั่วโลก เช่น กลุ่มนักวิชาการหรือนักเคลื่อนไหวด้านศาสนาต่างๆ ควรหันมาให้โซเชียลเน็ตเวิร์กในการดะวะห์ ตับลีฆ เชิญชวนคนทำอะม้าลอิบาดะห์ อาจจะสื่อสารผ่านทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊คก็ได้ ซึ่งจะทำให้เราสื่อสารได้กับคนจำนวนมากดังนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นมีผลต่อความคิดของคนในสังคมออนไลน์

ส่วนมันจะสะท้อนหรือชักจูงให้คนคิดเช่นไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ทุกคนและวิจารณญาณในการรับรู้เข้าใจข้อมูลของแต่ละคนที่เข้าไปอ่านหรือเข้าไปเล่น และที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างมันมีกรอบมีขอบเขตของมันในเสรีภาพที่หลายๆ คนกล่าวอ้างนั้น มันก็ต้องไม่ไปละเมิดเสรีภาพคนอื่นเช่นกัน นั่นก็เป็นหน้าที่หลักของเจ้าของที่สร้างเครื่องมือเหล่านี้ขึ้นมาจะต้องตรวจสอบเนื้อหาบนเว็บให้ดี ไม่ใช่ช่วยตรวจสอบแต่กลุ่มธุรกิจเพลงกับหนัง

ถึงเวลาแล้วยัง? และเมื่อไหร่จะถึงเวลา? ที่เรามุสลิมทุกคนจะห่วงแหนในความเป็นอิสลาม ความเป็นมุสลิมีนและมุสลิมะห์ ที่เรามุสลิมทุกคนจะปกป้องความเป็นอิสลาม ความทรงอานุภาพของอัลลอฮฺ การเผยแพร่คำสั่งสอนของท่านนบี อย่าละอายเลยครับกับการเป็นอิสลาม อย่าละอายเลยครับกับการนับถือศาสนาอิสลามสิ่งที่ควรละอายคือการที่เราไม่ทำตามหลักคำสั่งสอนของศาสนามากกว่า
วัสลาม



muslim hot report : รายงาน
ขอบคุณเนื้อหาดีๆ จากหนังสือพิมพ์รายเดือน "กัมปงไทย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น