ผมเคยถามคนๆ หนึ่ง
“บังครับ! มีเพื่อนศาสนิกชอบถามผมประจำเกี่ยวกับฮิญาบ ว่าทำไมสตรีมุสลิมบางคนไม่ใส่ผ้าคลุม (หมายถึงฮิญาบ) แต่บางคนใส่ แถมบางคนใส่ผ้าคลุมแล้วยังปิดหน้าอีก ...ผมจะตอบว่ายังไงครับ?”
บังคนนั้นยิ้ม แล้วตอบว่า
“บังเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากหรอก แต่บังจะเปรียบเทียบอย่างนึงนะ
มุสลิมะฮฺ ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งที่ประกอบไปด้วยสิ่งของอันสวยงามและสิ่งของที่มีราคา และการคลุมฮิญาบของมุสลิมะฮฺคนนั้นก็เปรียบเสมือนว่า บ้านหลังนั้นถูกปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา แต่.. มีแค่หน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดอยู่ (หมายถึงคลุมฮิญาบแล้วไม่ปิดหน้า)
สมมุติว่ามีโจรที่ชั่วร้ายผ่านมาทางบ้านหลังนี้ แล้วเผอิญเค้าเห็นสิ่งของที่สวยงามและสิ่งของที่มีราคาผ่านทางหน้าต่างเหล่านั้นแน่นอน.. โดยสัญชาตญาณของโจรก็ต้องงัดแงะเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของที่มีค่า เพื่อตอบสนองนัฟซู (อารมณ์ใฝ่ต่ำ) ของตนเอง
แล้วทีนี้ การที่มุสลิมะฮฺคลุมฮิญาบและปิดหน้า ก็เปรียบเสมือนว่า บ้านหลังนั้นที่ประกอบไปด้วยสิ่งของอันสวยงามและสิ่งของที่มีราคา ถูกปิดประตูและลงอย่างอย่างแน่นหนา โดยไม่มีช่องว่างช่องไหนที่สามารถมองเห็นได้
แล้วคิดว่ามีใครที่จะสามารถเข้าไปในบ้านหลังนั้นได้ไหม ถ้าเจ้าของไม่อนุญาต”
ผมยิ้มแล้วตอบว่า...
“ด้วยความรู้อันน้อยนิดของผม ผมคิดว่า ไม่ครับ”
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“บังครับ! มีเพื่อนศาสนิกชอบถามผมประจำเกี่ยวกับฮิญาบ ว่าทำไมสตรีมุสลิมบางคนไม่ใส่ผ้าคลุม (หมายถึงฮิญาบ) แต่บางคนใส่ แถมบางคนใส่ผ้าคลุมแล้วยังปิดหน้าอีก ...ผมจะตอบว่ายังไงครับ?”
บังคนนั้นยิ้ม แล้วตอบว่า
“บังเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากหรอก แต่บังจะเปรียบเทียบอย่างนึงนะ
มุสลิมะฮฺ ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งที่ประกอบไปด้วยสิ่งของอันสวยงามและสิ่งของที่มีราคา และการคลุมฮิญาบของมุสลิมะฮฺคนนั้นก็เปรียบเสมือนว่า บ้านหลังนั้นถูกปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา แต่.. มีแค่หน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดอยู่ (หมายถึงคลุมฮิญาบแล้วไม่ปิดหน้า)
สมมุติว่ามีโจรที่ชั่วร้ายผ่านมาทางบ้านหลังนี้ แล้วเผอิญเค้าเห็นสิ่งของที่สวยงามและสิ่งของที่มีราคาผ่านทางหน้าต่างเหล่านั้นแน่นอน.. โดยสัญชาตญาณของโจรก็ต้องงัดแงะเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของที่มีค่า เพื่อตอบสนองนัฟซู (อารมณ์ใฝ่ต่ำ) ของตนเอง
แล้วทีนี้ การที่มุสลิมะฮฺคลุมฮิญาบและปิดหน้า ก็เปรียบเสมือนว่า บ้านหลังนั้นที่ประกอบไปด้วยสิ่งของอันสวยงามและสิ่งของที่มีราคา ถูกปิดประตูและลงอย่างอย่างแน่นหนา โดยไม่มีช่องว่างช่องไหนที่สามารถมองเห็นได้
แล้วคิดว่ามีใครที่จะสามารถเข้าไปในบ้านหลังนั้นได้ไหม ถ้าเจ้าของไม่อนุญาต”
ผมยิ้มแล้วตอบว่า...
“ด้วยความรู้อันน้อยนิดของผม ผมคิดว่า ไม่ครับ”
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ดังที่ได้กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วถึงขอบเขตการปกปิดที่แตกต่างกันทั้งสองทรรศนะ บรรดานักปราชญ์มุสลิมซึ่งมีความรู้แตกฉานและน่าเชื่อถือ ได้ตีความจากโองการในอัลกุรฺอาน และหะดีษหลายบทของท่านนบีมุฮัมมัด {ขอความสันติและความจำเริญจากอัลลอฮฺจงประสบแด่ท่าน} ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่คนเราอาจมีความคิดเห็นแตกต่างกัน
สิ่งนี้เป็นการยืนยันถึงความสะดวกง่ายดายและเหมาะสมในการนำหลักการอิสลามมาปฏิบัติในชีวิตจริง เช่น หากบรรดานักปราชญ์มุสลิมทั้งหมดตีความว่าสตรีมุสลิมต้องปกปิดร่างกายทุกส่วนรวมทั้งใบหน้าและฝ่ามือ (อาจเปิดตาหนึ่งหรือสองข้างได้) ก็อาจก่อให้เกิดความยากลำบากแก่สตรีบางคนที่มีความจำเป็นต้องประกอบอาชีพบางอย่างเพื่อเลี้ยงดูตนเองหรือครอบครัวโดยไม่มีทางเลือ เช่น ทำอาหารขาย เธอคงไม่สะดวกที่จะสวมถุงมือด้วยขณะที่ทำอาหาร และถ้าเธอไม่สวมถุงมือก็ถือเป็นความผิด
แต่ด้วยพระเมตตาของผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลกนี้ พระองค์ทรงกำหนดมาอย่างกว้างๆ เพื่อให้โอกาสบรรดาบ่าวผู้ศรัทธาเลือกปฏิบัติสิ่งที่เหมาะสมอย่างเต็มความสามารถแต่ไม่ว่าจะยึดทรรศนะใด ก็ต้องศึกษาให้ละเอียด
ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่คุณอาจพบเห็นมุสลิมะฮฺบางคนคลุฒฮิญาบแบบเปิดหน้า ขณะที่บางคนคลุมแบบปกปิดมิดชิดทั้งร่างกาย เป็นความแตกต่างบนศรัทธาเดียวกัน ซึ่งมิได้ผิดหลักปฏิบัติทางศาสนาเลย
สำหรับมุสลิมะฮฺที่ไม่คลุมหน้าก็ไม่มีข้อตำหนิประการใดและเช่นเดียวกันก็ไม่ควรตำหนิมุสลิมะฮฺที่คลุมหน้าด้วย การคลุมหน้าไม่ใช่การบ่งบอกความเคร่งครัดกว่า เป็นเพียงการปฏิบัติสิ่งที่เชื่อว่าจำเป็น (วาญิบ) หรือเชื่อว่าทำแล้วดีกว่าเท่านั้น แต่ก็ถือว่าดีกว่าเพียงด้านการแต่งกาย ไม่ได้หมายความว่ามุสลิมะฮฺที่คลุมหน้าจะดีกว่ามุสลิมะฮฺที่ไม่ไดคลุมหน้าในทุกด้าน เราอาจพบเห็นมุสลิมะฮฺบางคนในสังคมที่คลุมฮิญาบแบบเปิดหน้า แต่มีกริยามารยาทตลอดจนความศรัทธาและการปฏิบัติอิบาดะฮฺงดงามยิ่งกว่ามุสลิมะฮฺที่คลุมหน้าบางคนเสียอีก
สิ่งนี้เป็นการยืนยันถึงความสะดวกง่ายดายและเหมาะสมในการนำหลักการอิสลามมาปฏิบัติในชีวิตจริง เช่น หากบรรดานักปราชญ์มุสลิมทั้งหมดตีความว่าสตรีมุสลิมต้องปกปิดร่างกายทุกส่วนรวมทั้งใบหน้าและฝ่ามือ (อาจเปิดตาหนึ่งหรือสองข้างได้) ก็อาจก่อให้เกิดความยากลำบากแก่สตรีบางคนที่มีความจำเป็นต้องประกอบอาชีพบางอย่างเพื่อเลี้ยงดูตนเองหรือครอบครัวโดยไม่มีทางเลือ เช่น ทำอาหารขาย เธอคงไม่สะดวกที่จะสวมถุงมือด้วยขณะที่ทำอาหาร และถ้าเธอไม่สวมถุงมือก็ถือเป็นความผิด
แต่ด้วยพระเมตตาของผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลกนี้ พระองค์ทรงกำหนดมาอย่างกว้างๆ เพื่อให้โอกาสบรรดาบ่าวผู้ศรัทธาเลือกปฏิบัติสิ่งที่เหมาะสมอย่างเต็มความสามารถแต่ไม่ว่าจะยึดทรรศนะใด ก็ต้องศึกษาให้ละเอียด
ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่คุณอาจพบเห็นมุสลิมะฮฺบางคนคลุฒฮิญาบแบบเปิดหน้า ขณะที่บางคนคลุมแบบปกปิดมิดชิดทั้งร่างกาย เป็นความแตกต่างบนศรัทธาเดียวกัน ซึ่งมิได้ผิดหลักปฏิบัติทางศาสนาเลย
สำหรับมุสลิมะฮฺที่ไม่คลุมหน้าก็ไม่มีข้อตำหนิประการใดและเช่นเดียวกันก็ไม่ควรตำหนิมุสลิมะฮฺที่คลุมหน้าด้วย การคลุมหน้าไม่ใช่การบ่งบอกความเคร่งครัดกว่า เป็นเพียงการปฏิบัติสิ่งที่เชื่อว่าจำเป็น (วาญิบ) หรือเชื่อว่าทำแล้วดีกว่าเท่านั้น แต่ก็ถือว่าดีกว่าเพียงด้านการแต่งกาย ไม่ได้หมายความว่ามุสลิมะฮฺที่คลุมหน้าจะดีกว่ามุสลิมะฮฺที่ไม่ไดคลุมหน้าในทุกด้าน เราอาจพบเห็นมุสลิมะฮฺบางคนในสังคมที่คลุมฮิญาบแบบเปิดหน้า แต่มีกริยามารยาทตลอดจนความศรัทธาและการปฏิบัติอิบาดะฮฺงดงามยิ่งกว่ามุสลิมะฮฺที่คลุมหน้าบางคนเสียอีก
ขอบคุณเนื้อหา อาจารย์มุรีด ทิมะเสน
Present by Muslim Hot Report
Present by Muslim Hot Report
ประเทศไทยไม่ได้มีการต่อต้านจากทางภาครัฐ...แต่ทำไมมุสลิมะฮฺไม่เห็นคุณค่าของการคลุมฮิญาบ ทั้งๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ปฎิบัติตามทั้งบนโลกดุนยาฮฺและโลกหน้า เป็นแนวทางที่ได้รับการรับรองจากอัลลอฮฺ ซบ.
ตอบลบ